ปลงพระชนม์ ของ ฟร็องซัว ราวายัก

ราวายักถูกราชองครักษ์จับกุมตัว หลังปีนขึ้นราชรถไปแทงพระเจ้าอ็องรีที่ 4 ถึงแก่พระชนม์ – ภาพเขียนของชาร์ล-กุสตัฟ โฮเซ (Charles-Gustave Housez) คริสต์ศตวรรษที่ 19

ใน ค.ศ. 1609 ราวายักอ้างว่า เขาเห็นนิมิตซึ่งสั่งให้เขาโน้มน้าวพระทัยพระเจ้าอ็องรีที่ 4 ให้แปลงชาวอูว์เกอโน (Huguenot) แห่งนิกายโปรเตสแตนต์ เป็นสมาชิกนิกายคาทอลิก เขาจึงเดินทางไปยังกรุงปารีสถึงสามครั้งในช่วงเพนเทคอสต์ ค.ศ. 1609 ถึงเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1610 เพื่อขอเข้าเฝ้าพระเจ้าอ็องรีและกราบทูลเรื่องเทวโองการ แต่ไม่เคยได้เฝ้าสักครั้ง ระหว่างนั้น เขาพำนักอยู่กับชาร์ล็อต ดู ตีแย (Charlotte du Tillet) อนุภริยาของขุนนางฌ็อง ลุย เดอ โนกาแร เดอ ลา วาแย็ต (Jean Louis de Nogaret de La Valette)

เหตุที่ไม่ได้เข้าเฝ้า เขาจึงทึกทักว่า พระเจ้าอ็องรีหมายพระทัยจะบุกเนเธอร์แลนด์เพื่อเตรียมทำสงครามกับองค์พระสันตะปาปา เขาเห็นว่า จะต้องหยุดยั้งการนี้ได้ จึงตกลงใจจะปลงพระชนม์พระเจ้าอ็องรีเสีย

วันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 1610 ราวายักไปซุ่มรอเสด็จอยู่ที่ถนนแฟร์รอนเนอรี (Rue de la Ferronnerie) ในกรุงปารีส ครั้นรถพระที่นั่งมาถึงและติดอยู่ในถนนนั้น ราวายักก็อาศัยโอกาสนี้พุ่งเข้าไปยังขบวนเสด็จ ปีนขึ้นไปบนราชรถ แล้วเอามีดจ้วงแทงพระเจ้าอ็องรีจนดับสูญพระชนม์ ปีแยร์ เดอ แลสตวล (Pierre de l'Estoile) นักพงศาวดาร บันทึกไว้ว่า[2]

รถพระที่นั่งเข้ามาทางแซ็งออนอเร (St Honoré) เพื่อไปยังถนนแฟร์รอนเนอรี แต่ด้านหนึ่งติดเกวียนขนสุรา อีกด้านหนึ่งติดเกวียนขนฟาง... ราวายักปีนขึ้นเพลารถพระที่นั่งดังกล่าว แล้วเอามีดซึ่งคมกริบทั้งสองด้านแทงพระองค์ระหว่างพระผาสุกะ [ซี่โครง] ซี่ที่สองและสาม

ราวายักถูกจับกุมทันที เจ้าหน้าที่เอาตัวเขาไปไว้ยังโรงแรมเร (Hotel de Retz) เพื่อกันฝูงชนรุมประชาทัณฑ์ ต่อมา จึงเอาเขาไปขัง ณ คุกหลวงกงซีแยร์เฌอรี (Conciergerie)

ใกล้เคียง

ฟร็องซัว ออล็องด์ ฟร็องซัว มีแตร็อง ฟร็องซัว ราวายัก ฟร็องซัว ดยุกแห่งอ็องฌู ฟร็องซัว บูเช ฟร็องซัว-เรอเน เดอ ชาโตบรีย็อง ฟร็องซัว ทรูว์โฟ ฟร็องซัว เดอ ซาล ฟร็องซัว อ็องแกลร์ ฟร็องซัว ปาลูว์